เกี่ยวกับเรา

ข้อมูลองค์กร

วิสัยทัศน์

“มุ่งมั่นที่จะรักษาความมั่นคง แข็งแกร่งในธุรกิจด้านเฟอร์นิเจอร์ สร้างโอกาสการเติบโตของธุรกิจแสวงหาโอกาสขยายตัวสู่ธุรกิจอื่น ๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อความยั่งยืน”

พันธกิจ

  • Sustainability       การพัฒนาให้องค์กรเติบโตด้วยความยั่งยืน ได้แก่ การจัดหาแนวทางเพื่อลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการเป็นผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ของบริษัท / การขยายสู่ธุรกิจด้านพลังงานทดแทน ซึ่งเป็นแนวโน้มที่สำคัญและเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน เป็นการสร้างรายได้และผลกำไรอย่างต่อเนื่องให้กับภาพรวมของธุรกิจ รวมถึงการจัดหาธุรกิจใหม่ทั้งที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหลัก หรือโอกาสในธุรกิจใหม่ ๆ ที่จะสามารถสร้างรายได้ให้เติบโตอย่างมั่นคง เป็นต้น รวมถึงการดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายตลอดห่วงโซ่คุณค่า สังคม สิ่งแวดล้อม และมีการกำกับดูแลกิจกิจการที่ดี
  • Diversification      การกระจายความเสี่ยงในธุรกิจ เช่น การมีทั้งรายได้จากการจำหน่ายสินค้าทั้งในและต่างประเทศ การมีกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย ตั้งแต่การส่งออก ร้านค้าปลีกสมัยใหม่ ร้านค้าส่ง ร้านค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์ทั่วประเทศ การพัฒนารูปแบบการจำหน่ายสินค้าแบบอีคอมเมิร์ซผ่านออนไลน์แพลทฟอร์ม และยังรวมถึงการขยายธุรกิจไปยังธุรกิจประเภทอื่น ๆ อาทิ ธุรกิจด้านพลังงาน ธุรกิจด้านสินทรัพย์ดิจิทัล ธุรกิจด้านพืชผลทางการเกษตร เพื่อกระจายความเสี่ยงและไม่พึ่งพิงธุรกิจเฟอร์นิเจอร์เพียงอย่างเดียว
  • Adaptation           การพร้อมสร้างกลยุทธ์แห่งการเปลี่ยนแปลงและปรับตัวในธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างโอกาสในการดำเนินธุรกิจให้เป็นไปด้วยความมั่นคงและยั่งยืน ตั้งแต่เริ่มต้นจากธุรกิจการเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนเฟอร์นิเจอร์ มาถึงผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ไม้ยางพารา เฟอร์นิเจอร์ไม้ปาร์ติเคิลบอร์ด ไม้เอ็มดีเอฟ และผู้ผลิตกระดาษปิดผิวเพื่อลดต้นทุนในการผลิตเฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น

ค่านิยมองค์กร

  • ทำงานด้วยใจที่มุ่งมั่นในเป้าหมาย (Be Passionate and Determined)
  • ลดกระบวนการทำงานแต่ได้ประสิทธิภาพที่มากขึ้น (Do More with Less)
  • แสวงหาการเติบโตและเรียนรู้อย่างไม่หยุดนิ่ง (Pursue Growth and Learning)
  • สื่อสารด้วยใจที่เปิดกว้าง เที่ยงธรรมและซื่อสัตย์ต่อผู้อื่น (Build Open, Integrity, Honest relationships with Communication)

วัตถุประสงค์

“การนำพาองค์กรให้มีการพัฒนาและกำไรที่เติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม สิ่งแวดล้อม และมีการกำกับดูแลกิจการที่ดี”

ประวัติความเป็นมา

“มุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำด้านธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และสร้างโอกาสในการเติบโตของธุรกิจอย่างต่อเนื่อง”

 

บริษัท อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค จำกัด (มหาชน) จดทะเบียนก่อตั้งเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2542 ด้วยทุนจดทะเบียนเริ่มแรก 6,000,000 บาท (หกล้านบาทถ้วน) โดยดำเนินธุรกิจเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์จากไม้ปาร์ติเคิลบอร์ดและไม้ยาง พารา กระดาษปิดผิว ไม้ยางพาราแปรรูปอบแห้ง เพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตเฟอร์นิเจอร์ไม้ยางพาราที่บริษัทเป็นผู้ผลิต และให้บริการตัดแผ่นปิดขอบไม้(พีวีซี) โดยประกอบกิจการนำเข้า-ส่งออก พร้อมจัดจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์จากทั้งในประเทศและต่างประเทศ ภายใต้การบริหารงานโดยกลุ่มนักธุรกิจคนไทย นำโดยนายวัลลภ สุขสวัสดิ์ ในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในปัจจุบัน และครอบครัวสุขสวัสดิ์ ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งและบุกเบิกธุรกิจการผลิตและจัดจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์มาตั้งแต่ช่วงปี 2535

  • 2535

    เริ่มจดทะเบียนก่อตั้งบริษัทแรกของ อีสต์โคสท์ กรุ๊ป ในนามของ บริษัท อีสต์โคสท์อุตสาหกรรม จำกัด (ECI) เพื่อประกอบธุรกิจโรงเลื่อย โรงอบ และผลิตและจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ไม้ยางพาราขึ้น ที่บริเวณ ถนนบ้านบึง – แกลง ตำบลทางเกวียน อำเภอแกลง จังหวัดระยอง

  • 2539

    เริ่มขยายธุรกิจไปสู่การเป็นผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ไม้ยางพารา ไม้ปาร์ติเคิลบอร์ด โดยก่อตั้งบริษัท อีสต์โคสท์ดีไซน์ จำกัด (ECD) และได้เริ่มมีการส่งสินค้าออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศ ได้แก่ ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และประเทศทางแถบยุโรปตะวันตก

  • 2541

    เริ่มสร้างแบรนด์ “ELEGA” เพื่อใช้เป็นตราสินค้าสำหรับเฟอร์นิเจอร์ไม้ยางพาราและเฟอร์นิเจอร์ไม้จริงที่สั่งซื้อมาจากทั้งในและต่างประเทศ และก่อตั้งตราสินค้า “Leaf” เพื่อใช้เป็นตราสินค้าสำหรับการผลิตและจำหน่ายให้กับโฮมโปร (Home Pro)

  • 2542

    ECD ได้รับคัดเลือกจากกรมส่งเสริมการส่งออกให้ใช้สัญลักษณ์ตราสินค้าไทย “Thailand’s Brand” เพื่อแสดงถึงการเป็นผลิตภัณฑ์ส่งออกที่มีคุณภาพสูง | ECI ได้รับรางวัล “Prime Minister Award” จากกระทรวงพาณิชย์ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้แก่ผู้ส่งออกที่มีผลการดำเนินงานดีเด่นและมีคุณภาพสินค้าอยู่ในระดับยอดเยี่ยม | ตุลาคม ก่อตั้งบริษัท อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค จำกัด (ECF) ทุนจดทะเบียนเริ่มแรก 6,000,000 บาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท เพื่อดำเนินธุรกิจโรงงานผลิตและจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์จากไม้ปาร์ติเคิลบอร์ด

  • 2543

    ECF ดำเนินการเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 6,000,000 บาท เป็น 13,080,000 บาท

  • 2544

    ECD ได้ผ่านการรับรองระบบจัดการคุณภาพมาตรฐาน ISO 9001 จาก UKAS (The United Kingdom Accreditation Service ) สำหรับการเป็นผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ไม้ | ECF ได้ผ่านการรับรองระบบจัดการคุณภาพมาตรฐาน ISO 9001 จาก URS (United Registrar of System (Thailand) Ltd.) สำหรับการเป็นผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ไม้ | ตุลาคม ECF ดำเนินการเพิ่มทุนจดทะเบียนจากเดิม 13,080,000 บาท เป็น 25,000,000 บาท

  • 2545

    ก่อตั้งบริษัท วี-ชัท เดคคอร์ จำกัด (VCD) เพื่อดำเนินธุรกิจผลิตกระดาษปิดผิวเฟอร์นิเจอร์ | ก่อตั้งบริษัท วี-ชัท อินดัสทรี จำกัด เพื่อดำเนินธุรกิจโรงเลื่อย โรงอบไม้ยางพาราแปรรูป | ก่อสร้างโรงงาน บนเนื้อที่กว่า 54 ไร่ ที่ตำบลวังจันทร์ อำเภอวังจันทร์ จังหวัดระยอง (ต่อมาในปี 2555 ได้จดทะเบียนเป็นสำนักงานสาขาแห่งที่ 1 ของบริษัท)

  • 2546

    ECI ขยายตลาดการจัดจำหน่ายสินค้า โดยการก่อตั้งโชว์รูม และได้เริ่มการขยายโชว์รูมในรูปแบบพื้นที่เช่าภายในอินเด็กซ์ รีฟวิ่ง มอลล์ และโฮมโปร

  • 2553

    ตุลาคม กลุ่มบริษัทอีสต์โคสท์ได้ปรับโครงสร้างการดำเนินธุรกิจจากทั้งหมด 5 บริษัท ให้เหลือการดำเนินธุรกิจเพียงบริษัทเดียว คือ ECF และต่อมา ECF ดำเนินการเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 25,000,000 บาท เป็น 90,000,000 บาท

  • 2554

    พฤษภาคม จดทะเบียนจัดตั้งบริษัท วีวี-เดคคอร์ จำกัด (VV-Decor) ในฐานะบริษัทย่อยที่มีสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 99.95 ทุนจดทะเบียน 1,000,000 บาท ดำเนินธุรกิจด้านการตลาดให้กับ ECF ในการเป็นผู้จัดจำหน่ายกระดาษปิดผิวให้กับลูกค้าบางรายของบริษัท | พฤศจิกายน ECF ดำเนินการเพิ่มทุนจดทะเบียนจากเดิม 90,000,000 บาท เป็น 100,000,000 บาท

  • 2555

    กรกฎาคม ขยายช่องทางการจำหน่ายสินค้าไปยังกลุ่มลูกค้าประเภทร้านค้าปลีกและร้านค้าส่งทั่วประเทศภายใต้แบรนด์ “Costa” | ตุลาคม ECF เปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้จากเดิมหุ้นละ 100 บาท เป็นหุ้นละ 0.25 บาท พร้อมทั้งมีการเพิ่มทุนจดทะเบียนจากเดิม 100,000,000 บาท เป็น 130,000,000 บาท และดำเนินการแปรสภาพจากบริษัทจำกัดเป็นบริษัทจำกัดมหาชน และเปลี่ยนแปลงชื่อเป็น บริษัท อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค จำกัด (มหาชน)

  • 2556

    กรกฎาคม ขยายช่องทางการจำหน่ายสินค้าไปยังกลุ่มลูกค้าประเภทร้านค้าปลีกและร้านค้าส่งทั่วประเทศภายใต้แบรนด์ “Costa” | ตุลาคม ECF เปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้จากเดิมหุ้นละ 100 บาท เป็นหุ้นละ 0.25 บาท พร้อมทั้งมีการเพิ่มทุนจดทะเบียนจากเดิม 100,000,000 บาท เป็น 130,000,000 บาท และดำเนินการแปรสภาพจากบริษัทจำกัดเป็นบริษัทจำกัดมหาชน และเปลี่ยนแปลงชื่อเป็น บริษัท อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค จำกัด (มหาชน)

  • 2557

    กรกฎาคม ECF ดำเนินการเพิ่มทุนจดทะเบียนจากเดิม 130,000,000 บาท เป็น 195,000,000 บาท จำหน่ายสินค้าให้กับไทวัสดุ ภายใต้ตราสินค้า “HASTA”

  • 2558

    กุมภาพันธ์ ดำเนินการจัดตั้งบริษัท อีซีเอฟ โฮลดิ้งส์ จำกัด ทุนจดทะเบียน 10,000,000 บาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท เพื่อประกอบธุรกิจหลักโดยการถือหุ้นบริษัทอื่น (Holding Company) | กุมภาพันธ์ จัดตั้งบริษัทย่อยทางอ้อมในญี่ปุ่น คือ ECF Tornado Energy Godo Kaisha เพื่อดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งปัจจุบันได้จำหน่ายโครงการดังกล่าวแก่นักลงทุนรายอื่นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว | มิถุนายน บริษัทลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อความร่วมมือดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวล โดยจัดตั้งบริษัทร่วมทุนแห่งใหม่ ร่วมกับ บริษัท ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้ จำกัด (มหาชน) บริษัท วิชญ์ อุตสาหกรรม จำกัด และกลุ่มผู้ประกอบการโรงไม้ในเขตพื้นที่ตั้งโครงการ โดยอนุมัติให้บริษัท อีซีเอฟ โฮลดิ้งส์ จำกัด เป็นผู้เข้าลงทุนในธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวล ร่วมก่อตั้งบริษัทร่วมทุนแห่งใหม่จำนวน 5 แห่ง คือ บริษัท เซฟ เอนเนอร์จี กรุ๊ป (นราธิวาส 1) จำกัด บริษัท เซฟ เอ็นเนอร์จี กรุ๊ป (นราธิวาส 2) จำกัด บริษัท เซฟ เอนเนอร์จี กรุ๊ป (ยะลา 1) จำกัด บริษัท เซฟ เอนเนอร์จี กรุ๊ป (ปัตตานี) จำกัด บริษัท เซฟ เอนเนอร์จี กรุ๊ป (สงขลา) จำกัด ปัจจุบันได้ดำเนินการจดทะเบียนเสร็จสิ้นการชำระบัญชี เนื่องจากไม่สามารถผ่านการประมูลเพื่อให้ได้สัญญาซื้อขายไฟฟ้าจากภาครัฐ | ธันวาคม ECFH ในฐานะบริษัทย่อยเข้าลงนามในสัญญาแฟรนไชส์กับ Can Do Company Limited (Can Do) ประเทศญี่ปุ่น เพื่อดำเนินธุรกิจร้านจำหน่ายสินค้าราคาเดียวทั้งร้าน และเปิดสาขาแรกที่ฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิต

  • 2559

    ธันวาคม อนุมัติให้บริษัท อีซีเอฟ โฮลดิ้งส์ จำกัด ในฐานะบริษัทย่อย เข้าลงทุนในบริษัทร่วมทุนแห่งใหม่และได้จดทะเบียนจัดตั้ง บริษัท เซฟ เอนเนอร์จี โฮลดิ้งส์ จำกัด (SAFE) ทุนจดทะเบียน 1,000,000 บาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท โดย ECFH ถือหุ้นสัดส่วนร้อยละ 49.98

  • 2561

    มิถุนายน มติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 7/2561 อนุมัติให้ บริษัทเข้าลงทุนในบริษัท แพลนเนทบอร์ด จำกัด โดยเข้าถือหุ้นร้อยละ 57 ของทุนจดทะเบียนทั้งหมด เพื่อประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายแผ่นไม้เอ็มดีเอฟ โดยคาดว่าจะมีระยะเวลาการก่อสร้างโรงงานให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลา 2 ปี | สิงหาคม แจ้งการเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวล บริษัท บีน่า พูรี่ พาวเวอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด ขนาด 1 เมกะวัตต์ อ.ลอง จ.แพร่ | ธันวาคม ECFH ยกเลิกสัญญาแฟรนไชส์ กับ CAN DO เสร็จสมบูรณ์

  • 2562

    กันยายน แจ้งเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ ของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ บริษัท พลังงานเพื่อโลกสีเขียว จำกัด (“โครงการฯ” หรือ “GEP”) ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองมินบู รัฐมาเกวย ประเทศสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ (“ประเทศเมียนมาร์”) ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 220 เมกะวัตต์ เฟสที่ 1 กำลังการผลิต 50 เมกะวัตต์

  • 2564

    วันที่ 14 พฤษภาคม 2564 ได้มีมติที่สำคัญคือ อนุมัติการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทย่อยเพื่อประกอบธุรกิจด้านออนไลน์แพลทฟอร์ม คือ บริษัท โซเมว่า พลาซ่า จำกัด โดยบริษัทฯ ได้เข้าเป็นผู้ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 75 และได้จดทะเบียนจัดตั้งเรียบร้อยเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2564 ด้วยทุนจดทะเบียนเริ่มต้น 2 ล้านบาท ปัจจุบันยังไม่มีรายได้ในเชิงพาณิชย์ เนื่องจากอยู่ระหว่างการพัฒนาแพลทฟอร์ม

     

    วันที่ 2 มิถุนายน บริษัทฯ มีการออกและจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิจะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯ ครั้งที่ 4 (ECF-W4) ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม โดยได้จัดสรรเป็นจำนวน 191,894,988 หน่วย โดยใบสำคัญแสดงสิทธิฯ ดังกล่าว มีอายุ 3 ปี สิ้นสุดวันที่ 2 มิถุนายน 2567 มีอัตราการใช้สิทธิใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 หน่วย มีสิทธิซื้อหุ้นสามัญได้ 1 หุ้น ราคาใช้สิทธิที่ 2 บาท ต่อ 1 หุ้นสามัญใหม่ของบริษัทฯ

     

    วันที่ 23 ธันวาคม 2564 คณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติพิจารณาอนุมัติการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทย่อยเพิ่มเติม 1 แห่ง คือ บริษัท วีวี ริช จำกัด เพื่อประกอบธุรกิจการเพาะปลูกและจัดจำหน่ายพืชผลทางการเกษตร โดยบริษัทฯ จะเข้าเป็นผู้ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 99.97 ปัจจุบันยังไม่มีรายได้ในเชิงพาณิชย์ เนื่องจากยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการเข้าลงทุน

  • 2565

    เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2565 ได้ดำเนินการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท วีวี ริช จำกัด ต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เป็นที่เรียบร้อย

  • 2566

    เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2566 ได้ดำเนินการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท อีซีเอฟ ดีไซน์ จำกัด ต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เป็นที่เรียบร้อย เพื่อประกอบธุรกิจหลักเป็นผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เฟอร์นิเจอร์ในต่างประเทศ ด้วยทุนจดทะเบียน 7,0000,000 บาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญ จำนวน 70,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท ซึ่งบริษัทดังกล่าวเกิดจากการร่วมลงทุนตามสัญญาร่วมลงทุน (Joint venture agreement) ลงวันที่ 20 มิถุนายน 2566 กับบริษัท Homy Casa Inc. ซึ่งเป็นบริษัทในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา และเป็นผู้ประกอบธุรกิจจัดจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ชั้นนำในต่างประเทศ โดยการลงนามในสัญญาร่วมลงทุนดังกล่าวได้รับอนุมัติจากที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 2/2566 เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2566 ที่ผ่านมา

ภาพรวมการประกอบธุรกิจ

บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากไม้ปาติเคิลบอร์ด ไม้เอ็มดีเอฟ แบบประกอบด้วยตนเอง เฟอร์นิเจอร์ไม้ยางพารา รวมถึงผลิตภัณฑ์ไม้ยางพาราแปรรูปอบแห้ง กระดาษปิดผิวสำหรับแผ่นไม้ปาติเคิลบอร์ด นอกจากนี้บริษัทฯ ได้เข้าลงทุนในธุรกิจด้านพลังงาน และธุรกิจด้านพืชผลทางการเกษตร ซึ่งธุรกิจด้านพลังงานอยู่ระหว่างการก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ให้แล้วเสร็จในเฟสที่เหลือเพื่อให้มีกำลังการผลิตครบ 220 เมกะวัตต์ จากปัจจุบันที่มีรายได้ในเชิงพาณิชย์แล้วที่ 50 เมกะวัตต์ และสำหรับธุรกิจด้านพืชผลทางการเกษตร อยู่ระหว่างเริ่มดำเนินธุรกิจ และจะเร่งสร้างให้เกิดรายได้ในเชิงพาณิชย์ต่อไป

business structure

รางวัลแห่งความสำเร็จ

Year 2017 Contribution Award
NWC Small Group Activities Excellent Award บริษัท อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค จำกัด (มหาชน) มอบไว้ ณ วันที่ 11 พฤษภาคม 2561 Nitori Holding Co.,Ltd.

ECF CSR กิจกรรมเพื่อสังคม

บริษัทมีความตระหนักเป็นอย่างยิ่ง ที่จะสร้างจิตสำนึกในเรื่องการแบ่งปันให้เกิดเป็นวัฒนธรรมองค์กร โดยมุ่งเน้นส่งเสริมให้พนักงานมีจิตสาธารณะ สร้างความสุขให้เกิดขึ้นจากการเป็นผู้ให้ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสังคมปัจจุบันให้น่าอยู่มากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ จึงเกิดเป็นกิจกรรม โครงการต่าง ๆ เพื่อส่งมอบความสุขให้เกิดขึ้นต่อสังคม และความสุขใจสู่พนักงานจากการเป็นผู้ให้

โครงสร้างการจัดการ